นิตยสาร O-lunla
คอลัมน์ Senior 4.0
“หนูจ๋า ช่วยดูโทรศัพท์ให้ป้าหน่อยสิจ๊ะ ทำไมมันถ่ายรูปไม่ได้เลย”
“อืม... โทรศัพท์ป้ามันเต็มแล้วน่ะค่ะ เซฟรูปไม่ได้แล้ว ต้องลบออกบ้างนะคะ”
“แล้วจะทำยังไงดีละเนี่ย...”
หลายๆ คนคงเคยเจอปัญหานี้นะครับ คือพื้นที่เก็บข้อมูลในโทรศัพท์ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ เพราะทุกๆ แอปฯ ในโทรศัพท์มือถือต่างก็ต้องการพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลกันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานของแอปฯ นั้นๆ
สิ่งที่ต้องการพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลมากที่สุดก็คงไม่พ้นกล้องถ่ายรูปในโทรศัพท์นั่นเองครับ
กล้องติดโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ก็มีความละเอียดสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดของไฟล์ที่เก็บก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย พื้นที่เก็บข้อมูลที่มีจำกัดก็จะเต็มเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองแล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
โอ-ลั้นลามีวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ มาแนะนำ ด้วยแอปฯ Google Photo
Google Photo เป็นแอปฯ จัดการรูปภาพของกูเกิล (Google) ข้อดีของแอปฯ นี้คือ
+ ช่วยจัดหมวดหมู่ภาพถ่ายอย่างเป็นระบบ
+ ทำให้มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บรูปภาพได้อย่างไม่จำกัด
ใช่แล้ว ‘ไม่จำกัด’ แต่จะมีเงื่อนไขการใช้งานอย่างไรนั้น ลองติดตามต่อไป
สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ (Android) ก็จะต้องมีบัญชีของกูเกิลอยู่แล้ว ซึ่งระบบแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ ก็มักจะมีแอปฯ ต่างๆ ของกูเกิลติดตั้งมาให้ด้วยตั้งแต่ต้นจากทางผู้ผลิต แต่ไอคอนของแอปฯ เหล่านี้ รวมถึง google photo อาจถูกซ่อนรวมกันอยู่ในโฟลเดอร์ชื่อกูเกิล ซึ่งจะต้องเปิดแอปฯ ขึ้นมาเพื่อลงทะเบียนและตั้งค่าต่างๆ ก่อนจะเริ่มต้นใช้งาน
สำหรับโทรศัพท์ระบบไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิล ก็สามารถดาวน์โหลดแอปฯ นี้มาติดตั้งได้ง่ายๆ จากแอปสโตร์ และลงทะเบียนเพื่อสร้างบัญชีกูเกิลขึ้นมา จากนั้นก็สามารถใช้แอปฯ กูเกิลโฟโต้ เพื่อทำการสำรองภาพถ่ายและวิดีโอได้เลย
สรุปเพื่อเข้าใจง่ายก็คือ ถ้าเป็นระบบแอนดรอยด์ จะมีแอปนี้ติดมาด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นระบบไอโอเอส ต้องดาวน์โหลดแอปนี้เพิ่มเติมจากแอปสโตร์ครับ
เมื่อลงทะเบียนด้วยบัญชีของกูเกิลแล้ว ผู้ใช้งานทุกคนจะได้พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ คนละ 15 GB ฟรีๆ รวมทั้งข้อมูลอีเมลและไฟล์ต่างๆ ที่จะเก็บไว้ในกูเกิลไดร์ฟ (Google Drive)
แต่สำหรับรูปภาพและวิดีโอ จะสามารถเก็บภาพได้อย่างไม่จำกัด ถ้าเก็บภาพแบบ ‘ความละเอียดสูง’ (high resolution) เมื่อทำการสำรองภาพถ่ายแบบความละเอียดสูงนี้ ระบบของกูเกิลจะทำการย่อและบีบอัดขนาดของไฟล์ให้เล็กลงเพื่อให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลว่าภาพที่เก็บไว้จะสูญเสียความคมชัดไป เพราะภาพแบบ ‘ความละเอียดสูง’ ในกูเกิลโฟโต้นั้น จะมีความละเอียดถึงประมาณ 16 MP ซึ่งก็อาจจะมีความละเอียดของภาพมากกว่าที่กล้องในโทรศัพท์บางรุ่นจะถ่ายเก็บไว้ได้เสียอีก
หลังจากลงทะเบียนและเปิดใช้งานแล้ว ระบบของกูเกิลจะทำการสแกนภาพถ่ายที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์และจัดหมวดหมู่ตามลักษณะและข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ เช่น วัน เวลา หรือสถานที่ที่บันทึกภาพนั้นๆ
ระบบของกูเกิลยังสามารถตรวจจับลักษณะของภาพได้ด้วยว่าเป็นภาพบุคคล สถานที่ อาหาร หรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลเพิ่มลงไปได้ว่าเป็นภาพของบุคคลใด เพื่อความสะดวกในการค้นหาภาพของคนนั้นๆ ในภายหลัง
จากนั้นแอปฯ จะทำการสำรองไฟล์ภาพถ่ายให้เองโดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้แอปฯ ทำการสำรองไฟล์ภาพในโฟลเดอร์ใดบ้าง (ทุกๆ แอปฯ ที่ติดตั้งในโทรศัพท์ก็จะมีโฟลเดอร์ของตัวเอง) เมื่อตั้งค่านี้เสร็จแล้วแอปฯ จะทำการสำรองข้อมูลให้เองเมื่อมีสัญญาณไวไฟ (ควรทำการสำรองข้อมูลด้วย wi-fi เท่านั้น เนื่องจากไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่จะสิ้นเปลืองค่าอินเทอร์เน็ต 3G โดยใช่เหตุ)
เมื่อกูเกิลโฟโต้สำรองไฟล์ภาพเรียบร้อยแล้วให้คลิกที่เมนู ‘เพิ่มพื้นที่ว่าง’ ตัวแอปฯ จะตรวจสอบว่ามีไฟล์ภาพที่ทำการสำรองไว้แล้วมากน้อยแค่ไหน และจะสามารถลบไฟล์ต้นฉบับทิ้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับโทรศัพท์ได้
ภาพที่ถูกสำรองไว้ด้วยกูเกิลโฟโต้นั้นจะยังถูกเก็บไว้แบบออนไลน์ ซึ่งสามารถเปิดดูได้ทุกเมื่อและยังสามารถเปิดดูได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ เพียงแค่ไปที่เว็บ Google Photo และล็อกอินด้วยบัญชีผู้ใช้งานของกูเกิลเท่านั้น
เพียงแค่นี้ ปัญหาเรื่องการจัดเก็บภาพถ่ายก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
สนใจติดตามข่าวสารดี๊ดี แอดไลน์เป็นเพื่อนกัน | (คลิกจากโทรศัพท์มือถือ)