นิตยสาร O-lunla
คอลัมน์ O-Happy
คุณแม่ชุมสาย มีสมสืบ (คุณแม่ของกวีซีไรต์ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ) ปีนี้อายุ 88 ปีแล้ว แต่ที่น่าทึ่งคือ เธอเริ่มจับพู่กันระบัดระบายเมื่อตอนอายุ 70 ปีนี่เอง
ปัจจุบันใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านพักจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากมีลูกหลานน่ารักรายล้อมแล้ว สิ่งที่ชุบชูจิตใจและมีพลังเหนี่ยวมือแม่ให้ลุกขึ้นมาทำทุกวันนั่นคือ การวาดภาพด้วยสีอะคริลิก และสร้างสรรค์ผลงานไว้เกือบ 300 รูป จัดแสดงนิทรรศการมาแล้ว 3 ครั้ง
“ภาพแรกที่วาด จำได้ว่าวาดกุหลาบ จากนั้นก็วาดมาเรื่อยเช้าพอกินข้าวกินปลาเสร็จ ไม่มีอะไรก็มานั่งวาด”
คุณครูชุมสาย
“แม่จบจากการช่างสตรีชัยนาท และเป็นครูตั้งแต่เรียนจบ สอนหนังสือที่ชัยนาทพักหนึ่งก่อนย้ายมาสอนที่นครสวรรค์ แม่มีน้องชายเป็นครูเหมือนกัน วันหนึ่งน้องชายมาชวนไปทำโรงเรียนราษฎร์ ประมาณปี พ.ศ. 2500 บอกให้พี่เป็นทุน เขาจะเป็นแรง ก็ช่วยกันทำมาเรื่อยๆ"
"โรงเรียนชื่อนิมิตศึกษา เริ่มต้นจากการเช่าที่วัดโคกเดื่อ พอดีขึ้นก็ออกจากพื้นที่วัดมาซื้อที่ 5 ไร่ เปิดสอน ป.1 ถึง ม.6 ทำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งแม่ขอเกษียณก่อน 60 เพราะเหนื่อยมาก ตีสี่ตีห้าแม่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปจ่ายตลาด ซื้อของมาทำอาหาร เหนื่อยจนบอกลูกสาวว่าแม่ไม่กลับมาอยู่โรงเรียนละนะ พอออกมาก็ไปอยู่กับไวท์ซึ่งตอนนั้นจบจากกรุงเทพฯ แล้วไปสอนหนังสือที่ชุมแสง ก็เลยไปอยู่กับเขา"
"ตอนนี้ลูกสาวแม่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน แม่กับน้องชายไม่ได้ทำแล้ว อาศัยลูกกิน มีแต่ตัว (หัวเราะ) แรงก็น้อย"
จับพู่กันลั้นลาเมื่อวัย 70
"ไวท์ (ศักดิ์สิริ มีสมสืบ) เรียนเพาะช่าง เป็นครูสอนศิลปะ บ้านเขาเลอะเทอะก็ไปเก็บของให้เขา เห็นมีสี มีกระดาษแม่ก็นั่งวาดเล่น ด้วยความไม่รู้ก็เลยเอาสีน้ำมันของเขามาผสมน้ำ"
"พอลูกชายมาเห็น เขาบอกว่า ‘แม่...นี่มันสีน้ำมัน’ แล้วก็เลยคว้ารถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อน้ำมันมาขวดหนึ่ง เราก็หัดวาดมา ตอนหลังเขาให้เราใช้สีอะคริลิก เพราะใช้ง่ายและกลิ่นไม่แรง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไวท์เป็นคนซื้ออุปกรณ์ทั้งนั้น เวลากระดาษหมด เขาก็จะคอยดูให้"
"แม่เริ่มวาดตอนอายุ 70 แต่ถ้าถามว่าชอบตั้งแต่เมื่อไร ก็ชอบตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียน แม่ชอบวาดเขียนตั้งแต่เด็ก แม่อยู่โรงเรียนประจำ สมัยนั้นปีใหม่ก็ทำ ส.ค.ส. กันเอง เอาไหมญี่ปุ่นมาผูกแล้วส่งให้กัน"
"เรื่องวาดรูปนี่ ลูกชายสอนก็ไม่สอน แนะนำก็ไม่แนะนำ เขาบอกถามใจแม่ อยากทำอะไรก็อยากทำ เป็นจินตนาการ พอเขาบอกอย่างนั้น ต่อไปก็ไม่ต้องถามเขาละ (หัวเราะ) บางทีไวท์ก็เอาภาพหนังสือนกมาให้ ลองวาดอันนี้สิ เราก็วาดได้ เหมือนหรือไม่เหมือนอีกเรื่องหนึ่ง (ยิ้ม) ศิลปะไม่มีผิดมีถูก ต้นไม้ก็มีสารพัดต้น บางต้นสวย บางต้นกิ่งแห้ง ใบเหลือง ใบแดง เพราะฉะนั้นจะวาดอะไรก็คงไม่ผิด การไล่สีหนักเบาก็คิดๆ เอาตามความรู้สึก วาดแล้วเพลินดี"
ลูกชายพูดถึงแม่
มาฟังลูกชายพูดถึงแม่บ้าง ศักดิ์สิริเล่าว่าเมื่อยังเล็กในโรงเรียนของแม่มีร้านค้าสหกรณ์ เขามักไปหยิบกระดาษและสีมาวาดโดยไม่จ่ายเงิน แต่แม่ก็ไม่เคยว่า ไม่หวงของ เขาได้วาดอย่างเต็มที่ เมื่อจบ ม.3 แม่สนับสนุนให้ไปสอบเพาะช่าง เช่นเดียวกับที่เห็นแววลูกชายอีกคนว่าควรไปเรียนพลศึกษา
เมื่อเล็กแม่เห็นแววเขา เมื่อแม่อายุมากขึ้น เขาเห็นแววของแม่ และเป็นกองเชียร์สนับสนุนให้แม่วาดภาพมาตลอด 20 ปีมานี้
"เวลาวาดก็มีสมาธิ ใจจดจ่ออยู่กับงาน ทำให้ไม่คิดเบียดเบียนใคร วันๆ ไม่มีเวลาคิดอิจฉาใคร ทุกวันนี้แม่ยังสวดมนต์ทำบุญ แต่ไม่ค่อยได้ไปวัด เพราะการวาดภาพก็ช่วยให้เรามีสมาธิ มีความสงบไม่ต่างกัน"
ถ้าผู้สูงอายุ 60 แล้วอยากเริ่มวาดอย่างแม่บ้าง คุณแม่มีคำแนะนำอย่างไร
“เมื่อไรก็เริ่มได้ แต่ต้องมีใจรัก ถ้าไม่รัก ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง"
"แม่เป็นคนอยู่ว่างไม่ได้ ว่างแล้วรู้สึกรำคาญ เคยบอกกับลูกว่าเหมือนรอวันตาย ไม่สนุกเลย ต้องทำอะไรสักอย่าง - - อีกไม่นานแม่ก็จะ 89 แล้ว เหลือเวลาอีกสักเท่าไหร่ล่ะลูก แต่ถ้าสุขภาพดีไม่เกี่ยง จะวาดจนกว่าจะไม่มีแรงนั่นแหละ (ยิ้ม)”
นอกจากการวาดภาพจะเป็นความสุขแล้ว การได้แบ่งปันความรื่นรมย์ให้ผู้อื่นได้ชื่นชมก็เป็นความสุขเช่นกัน แม่ชุมสายและศักดิ์สิริได้ร่วมกันจัดงานแสดงภาพวาดมาแล้ว 3 ครั้ง
ครั้งแรกที่วังสวนผักกาด กรุงเทพฯ เมื่อปี 2545
ครั้งที่ 2 ที่ภูเก็ตเมื่อปี 2557
ครั้งที่ 3 อาร์ซีบี แกเลอเรีย ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก ปี 2560 โดยเป็นงานแสดงภาพเขียน 3 วัย คือตัวคุณแม่เอง ลูกชาย (ศักดิ์สิริ มีสมสืบ) และหลานชายรินคม มีสมสืบ อายุ 8 ขวบ
ในการแสดงผลงานเมื่อปี 2560 คุณแม่ชุมสายบอกกับคนที่มาร่วมงานให้กำลังใจเธอว่า
“รู้สึกอบอุ่น คนอายุมากๆ ก็เหมือนได้ยาหอม กะจิตกะใจสดชื่นต่ออายุไปได้อีกหน่อยหนึ่ง จะไปได้เท่าไรก็แล้วแต่ ...นี่เป็นยาหอมที่วิเศษที่สุด”