“ทำไมต้องเป็นหนึ่ง”
ย้อนไปในวัยหนุ่ม ช่วงหย่อน 30 ที่กำลังสนุกสนานกับงานด้านผลิตสื่อ ดูแลโปรดักชัน คมสัน ทินกร ณ อยุธยา ถูกคุณป้าตามตัวให้กลับมาดูแล บริษัท ภูลประสิทธิ์ จำกัด กิจการยาสมุนไพรของกงสี
เขาคือหนึ่งเดียวที่ “ถูกเลือก” ให้สืบสานงานครอบครัวในลำดับชั้นที่ 6 อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของราชสกุล “ทินกร” ที่จะส่งความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและยาสมุนไพรไทยจากรุ่นสู่รุ่น
โดยในแต่ละรุ่นจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเลือกเป็น “ทายาท” ซึ่งไม่เพียงรับสืบทอดดูแลธุรกิจทั้งหมด แต่ยังสืบทอด ภูมิปัญญา โอสถขนานต่างๆ ซึ่งบางตำรับ บางขนานจะถ่ายทอดเคล็ดลับด้วยวิธี กระซิบบอก กับทายาทเท่านั้น ไม่มีการจดจารเป็นตำรา และถือเป็นความลับ สูงสุดของตระกูล
“ทำไมต้องเป็นหนึ่งน่ะหรือ...อีกหน่อยเจ้าจะรู้เอง”
คือคำตอบจากป้าหมอผู้นำตระกูลรุ่นที่ 5 ที่อาจารย์คมสันได้รับตั้งแต่วัยเด็ก แม้จะไม่มีคำตอบ แต่แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...
ในช่วงที่ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ประเทศไทยทะยานแตะสองหมื่น ยาสมุนไพรไทยที่เคยถูกหลงลืมจนกลายเป็นชื่อแปลกหน้า ไม่ว่าฟ้าทะลายโจร กระชาย ขมิ้นพลูคาว โกฐจุฬาลัมพา ฯลฯ ถูกหมายมองอย่างคาดหวัง
นิตยสารโอ-ลั้นลาจึงขอสัมภาษณ์อาจารย์คมสัน ทินกร ณ อยุธยา ทายาทรุ่น 6 หมอแผนไทยและสมุนไพรไทยแห่งราชสกุล ทินกร
“ถ้าคุณไม่กลัวก็มา” อาจารย์หัวเราะเปิดเผยตามแบบฉบับ แน่นอนว่าเป็นการใหสัมภาษณ์แบบมีระยะห่างสุดๆ อยู่คนละฝั่งของบ้านกันเลยทีเดียว
“ฉันไม่ได้มานั่งเล่นเหมือนเด็กทั่วๆ ไปนะ ตั้งแต่เล็กๆ ต้องทำงาน ดูกระจาดสมุนไพร และให้หยิบของที่ไม่ใช่ออก” อาจารย์เล่าถึงการทำงานวัยเด็ก สองตาต้องสอดส่ายหาของแปลกปลอม เศษต่างๆ
ที่อาจปะปนมาในกระจาด ซึ่งก็คือบทเรียนขั้นต้นของการเป็นหมอยา
“เวลาคนไข้มาหาป้าก็ต้องไปยืนฟังอยู่หลังป้า หลับไม่ได้ จะโดนหยิก เด็กๆ เราฟังก็ไม่รู้เรื่อง” อาจารย์คมสันเล่าถึงอดีตด้วยรอยยิ้ม
“พอโตขึ้นหน่อย ป้าก็มาถามแม่ว่า หนึ่งขึ้นรถเมล์ได้หรือยัง พอบอกว่าได้แล้วก็ได้รับมอบหมายไปส่งยาตามบ้านลูกค้าที่สั่งไว้ ป้าจะให้เงินไปพอดี ไม่มีเกิน ถ้าหลงแปลว่าต้องเดินกลับ เราถูกสอนให้ติดดิน”
ต้นราชสกุลทินกรคือ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ หรือ พระองค์เจ้าชายทินกร พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 ทรงมีความสามารถในเชิงวรรณกรรม ทรงประพันธ์ละครนอกไว้หลายเรื่อง เช่น แก้วหน้าม้า สุวรรณหงส์ยอพระกลิ่น มีคณะละครภูวตาที่เป็นที่นิยมในยุคสมัยนั้น ได้ส่งพระโอรสไปเรียนวิชาหมอจากท่านตา และจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท ต้นราชสกุล สนิทวงศ์ ผู้เป็นลุง (พระราชโอรสใน รัชกาลที่ 2 ต่างพระราชมารดา)
ด้วยการบ่มเพาะเช่นนี้ พระโอรสของพระองค์เจ้าชายทินกรหลายท่านจึงรับราชการเป็นหมอในวังหลวงสืบทอดมารุ่นต่อรุ่น หม่อมเจ้าภูลสวัสดิ์ ทินกร(คุณเทียดหมอ) ได้รับราชการเป็นแพทย์หลวง สำนักกรมหมอหลวงในรัชกาลที่ 5 และ ม.ร.ว.สอาด ทินกร(คุณทวดหมอ) ทายาทก็ดำเนินครรลองเป็นหมอตามพ่อ ส่งต่อไม้มาถึง ม.ล.อุทัย ทินกร (คุณปู่หมอ) มาจนถึงเรือโทหญิงปทัยทิพย์ ทินกร ณ อยุธยา (คุณป้าหมอ)ที่เป็นผู้ฝึกให้เด็กชายคมสันทำงาน นั่งรถเมล์ไปส่งยา
ถูกเมฆบดบัง
ตลอดการส่งต่อความรู้แพทย์แผนไทยได้พบพายุใหญ่สองครั้งครั้งแรกเมื่อกระแสลมตะวันตกหอบพัดให้การแพทย์ตะวันตกมาหยั่งรากในไทย และเป่าเบียดให้การแพทย์แผนไทยลดบทบาทความสำคัญลงในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 หม่อมเจ้าภูลสวัสดิ์และหม่อมเจ้าเจียก น้องชายต่างมารดาได้รับการบอกเลิก มิต้องไปสอนที่โรงเรียนแพทย์อีกต่อไป คงไว้แต่การเรียนแผนตะวันตกเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นหม่อมเจ้าเจียกเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ฝ่ายแพทย์แผนไทย โรงเรียนแพทยากร โรงพยาบาลศิริราช หม่อมเจ้าหมอไทยราชสกุลทินกรจึงตกงานไปตามระเบียบ
พายุครั้งที่สองคือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ครั้งนั้นวังเจ้านายหลายแห่งถูกทำลายและถูกริบหลายแห่งถูกแปลงเป็นสถานที่ปฏิบัติงานข้าราชการวังทินกรบริเวณสวนเจ้าเชตุก็เช่นกัน ปัจจุบันวังเป็นที่ทำการของหน่วยรักษาดินแดน
“ป้าเล่าว่าต้องย้ายไปอยู่แถวแพร่งสรรพศาสตร์ ไม่มีบ้านอยู่ ตอนอพยพโยกย้าย ทุกคนเป็นห่วง เอาอะไรออกมากันรู้ไหม...
“ใช่เลย ตำรายา คนเป็นหมอนะ วิชาความรู้นั้นสำคัญพลัดหลงสูญหายไปก็มาก น่าเสียดาย ความรู้แพทย์แผนไทยส่งต่อกันมาเป็นร้อยเป็นพันปี”
แน่นอนว่าภูมิปัญญาเหล่านี้เป็นความลับสุดยอดและล้ำค่ามาก ปัจจุบันจึงเก็บใส่เซฟ มีกุญแจสองดอกดอกหนึ่งผู้ถือคืออาจารย์คมสัน ทายาทรุ่นที่ 6 และอีกหนึ่งดอกก็คือผู้ถูกวางตัวเป็นผู้สืบต่อลำดับชั้นที่ 7 และการไขเซฟนี้ ต้องใช้กุญแจทั้งสองดอกเปิดพร้อมกันเท่านั้น
พายุครั้งนั้นส่งผลต่อความศรัทธาและความนิยมในแพทย์แผนไทยอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ยังดีที่ผู้สืบสกุลของหม่อมเจ้าภูลประสิทธิ์ คือ ม.ร.ว.สอาด ทินกรนอกจากเป็นแพทย์แล้ว ยังได้เปิดร้านขายยาแผนไทยอยู่ที่เสาชิงช้าและตลาดธนบุรี เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ยังเชื่อมั่นและชมชอบในยาสมุนไพรไทย ความรู้ในตระกูลจึงส่งต่อกันไม่ขาดสาย
ปัจจุบัน บริษัท ยาหอมภูลประสิทธิ์ จำกัด มีตำรับยามากมายที่ต่อยอดในเชิงธุรกิจ มีร้านจำหน่ายยาและคลินิกแพทย์แผนไทยหม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร อยู่ที่ซอยอารีย์ ย่านพหลโยธิน บนที่ดินเดิมของตระกูลซึ่งมีมติ
ให้ขายออกไป และเปลี่ยนมาเป็นผ้เูช่าที่ดินแทน และมีโรงงานผลิตยาและคลินิกอยู่ย่านลาดพร้าว ยังมีคลินิกแพทย์แผนไทยหมู่บ้านสัมมากร ย่านรามคำแหง-สุขาภิบาล 3 อีกแห่งด้วย
นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนสอนหมอชื่อสถานฝึกอบรมวิชาการแพทย์แผนไทย (ก)ของคลินิกการแพทย์แผนไทยหม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร นอกจากยาหอมภูลประสิทธิ์ที่โด่งดังและราคาพรีเมียมแล้ว ยังมียาตรา พระอาทิตย์ดั้นเมฆ อีกหลายตำรับ เช่น ยานเรศเรืองฤทธิ์ บำรุงร่างกาย แก้เหน็บชา,อาสาทิยะโอสถ แก้ไข้หวัดทั้งปวง,จันทลีลา แก้ไข้ตัวร้อน, ยาเบญจโลกวิเชียร
ในการผลิตยาในโลกไม่ว่าจะเป็นเภสัช กรรมตะวันตกหรือเภสัชกรรมตะวันออก ต่างต้องเน้นคุณภาพเช่นเดียวกัน แต่ของไทยจะมีแบบแผนจารีต ซึ่งบริษัทภูลประสิทธิ์ ให้ความสำคัญมาโดยตลอดก็คือ การไหว้ครูบาอาจารย์และการ พลียา ก่อนผลิตมีบทสวดบทท่อง กล่าวขออนุญาตต้นไม้ พืช หรือแม้แต่หญ้าที่นำมาผลิตยา และสิ่งสำคัญที่แพทย์แผนไทยยึดถือคือการ ไม่นอกครู ไม่ปฏิบัตินอกคำสั่งครูที่จารไว้ในตำรา
แสงสาดส่องสมุนไพรไทย
ก่อนหน้าที่จะเกิดโรคระบาดโควิด 19 เชื่อว่ามีคนไทยไม่มากนักเคยรับประทานฟ้าทะลายโจรหลายคนอาจไม่เคยรับรู้ว่าเคยกินกระชายผ่านขนมจีนน้ำยาและผัดฉ่าสาร พัด หลายคนไม่เคยได้ยินพลูคาว
โกฐฏจุฬาลัมพา ตรีผลา จันทน์ลีลา ตำรับยาห้าราก ไม่เคยคิดแม้แต่จะจิบน้ำขิง ชิมน้ำมะขามป้อม
ในช่วงการเกิดโควิด 19 ระบาดมาเกือบ 2 ปี ทั่วโลกต่างวิจัยค้นหาเส้นทางรอดชีวิต คนไทยจำนวนไม่น้อยจึงได้รับการกระตุกเตือนให้หวนกลับมามองภูมิปัญญาของการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยมากขึ้น ยาแผนไทยของคลินิกฯ เป็นที่ต้องการ ต้องเพิ่มการผลิตและเปิดจำหน่ายเป็นรอบๆ พนักงานทุกคนก่อนเข้าโรงงานนอกจากล้างมือด้วยแอลกอฮอล์แล้ว จะต้องดื่มมหาพิกัดตรีผลาก่อนเข้าทำงาน
“รอบแรกคนกลัว รอบที่สองเห็นรอบแรกเราเอาอยู่เลยไม่กลัวและไม่เกรง รอบสามเราทั้งกลัวและทั้งเกรง อะไรมาก็รีบคว้าเกาะ”
แต่ที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่งคือ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ สมุนไพรไทย ผิดทาง
“แพทย์แผนไทย เราไม่กินสมุนไพรเดี่ยว แต่กินเป็นตำรับ” อาจารย์คมสันอธิบายว่า การกินสมุนไพรเดี่ยวต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจเกิดพิษมากกว่าเกิดคุณ คำแนะนำเบื้องต้นคือถ้าคิดจะกินสมุนไพรเชิงเดี่ยว ให้กินไม่เกิน 5 วัน แล้วพักเปลี่ยนยาสมุนไพรตัวใหม่ เช่น ใช้ฟ้าทะลายโจร 5 วัน พักแล้วเปลี่ยนมากินกระชายพักแล้วเปลี่ยนมากินขิง
www.facebook/komsandinakara เฟซบุ๊กอาจารย์คมสันในช่วงนี้ จึงขึ้นเรื่องราวให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เช่น
“กระชายปั่น ปั่นกันจนพัง”
“ตะไคร้กับหญ้านั้นครือกัน ตะไคร้เป็นหญ้ากันหวัดได้ ตะไคร้เหมาะกับห่าทิ่มปอด”
“มีข่าอยู่ในครัวเหมือนมียาอยู่ในบ้าน”
“ผัดกะเพราห่าแขยง”
“น้ำกระสายยา มหาพิกัดตรีผลา”
อาจารย์คมสันแนะนำว่าหากกินเพื่อการเสริมภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือให้กินเป็นอาหารและเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นกระชาย หอมแดง ขิง ส่วนหากป่วยกินเป็นยา ก็ควรกินเป็นตำรับเพื่อแก้กลุ่มอาการ
“กินเพิ่มภูมิ กินอร่อยก็ได้ กินเป็นอาหารได้มากมายอย่างน้ำที่อาจารย์ให้พวกคุณดื่มวันนี้อร่อยไหม...”
ที่อาจารย์ถามคือเวลคัมดริงก์สุดเก๋ที่อาจารย์คมสันกรุณาเตรียมไว้ต้อนรับทีมงาน น้ำขิงต้มผสมน้ำลำไย(ทวีรสร้อน) แต่งรสด้วยน้ำเชื่อม น้ำมะนาว (รสเปรี้ยวเข้าทางน้ำ) รินแช่เย็นไว้และแต่งหน้าสวยด้วยเนื้อลำไยและเนื้อพีช เรียกว่าทั้งครีเอทีฟ สวยงาม และอร่อย
“อร่อยและได้ประโยชน์ใช่ไหม อาจารย์ทำ อาหารเก่งนะจะบอกให้ คุณย่าเป็นตระกูลบุนนาค ทำแกงมัสมั่นนี่สุดยอด”
"รักษา" ก่อน "รักษา"
แล้วแพทย์แผนไทยมองโควิด 19 อย่างไร
“ตามคัมภีร์ตักศิลาเราเรียกไข้เหนือ คือมาจากด้านเหนือของประเทศเราก็คือจีน ไข้ หัวลมก็เรียก คือไข้เปลี่ยนฤดู หัวลมฝนจะเข้าหัวลมหนาว โควิดมาตอนนี้เป๊ะ พอติดแล้วจะเกิดความเป็นพิษ เรียกไข้พิษ
และไข้พิษที่ติดนี่เรียกไข้หวัด แล้วชนิดหวัดที่เป็น เรียกหวัดมองคร่อ คือหวัดลงปอด เพราะฉะนั้นหมอไทยกำลังรักษาโรคหวัดอยู่นะ ไม่ได้รักษาโควิด 19
“พอหวัดมันลง ระบบที่จะฉิบหายก่อนคือธาตุไฟเพราะฉะนั้นเราจะไปกระทุ้ง ยา 5 ราก ยาเขียว ยาจันทน์ลีลาอะไรก็แล้วแต่ที่เรามี ไปกระทุ้งเรียกมันออกมาจากที่ซ่อน บางคนไม่มีอาการเลย แต่จะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะมีไข้ แต่ไม่ได้เป็นไข้ วัดอุณหภูมิแล้วปกติ หมอไทยบอกเป็นแล้ว บางคนปวดเนื้อเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นั่นคือเป็นแล้ว ถ้าเป็นแพทย์แบบแผน เขาจะยังไม่ทำอะไรเธอ แต่ฉันทำแล้ว หมอไทยจะ ‘รักษาก่อนรักษา’ ฉันให้ยา 5 ราก ยาจันทน์ลีลาเลย”
ที่น่าประหลาดใจ ตำราโบราณระบุการรักษาโรคไว้ 14 วัน ตรงกับช่วงเวลาการกักตัวพอดี
“คัมภีร์แพทย์ฉันทศาสตร์บอกว่า ธาตุไฟมีอายุ 4 วัน แต่เราจะวางยา 5 วัน เพราะเราไม่รู้วันเริ่ม แล้วหวัดเป็นโรคทางน้ำ ในคัมภีร์ที่เรียนบอกว่าน้ำมีอายุ 9 วัน 9 บวก 5 เป็น 14 นี่เป็นคัมภีร์ที่เราเรียนเป็นร้อยๆ ปีแล้ว”
จากการทดลองให้คำปรึกษาและรักษาคนไข้ด้วย 13 ศาสตร์แพทย์แผนไทยที่คลินิกฯ ปรากฏว่าไม่มีคนไข้รายใดเปลี่ยนจากผู้ป่วยสีเขียวเป็นเหลืองเลย
ดูแลสุขภาพสายกลาง
ในวัย 61 อาจารย์คมสันดูกระฉับกระเฉง เดินเหินคล่องแคล่ว เคล็ดลับการดูแลสุขภาพคืออะไร
“กินอะไรก็ได้ อาจารย์กินข้าวหมูแดงเจ้าอร่อยเจ้าดัง กินไปเถอะ กินอะไรที่อยากกิน สมัยนี้เราฮิตอาหารคลีน แต่ถ้าจริงๆ จะรู้ได้ไงว่าคลีน ต้องไปดูที่ปลูกถึงจะเชื่อว่าผักออร์แกนิกจริง”
กินง่ายแต่กินละเมียด เพราะในตระกูลสั่งสมความร้เูรื่องอาหารการกินมาไมน้อย คุณย่าเป็นลูกหลานบุนนาค ต้นตระกูลมีเชื้อสายแขกเปอร์เซียที่ฝีไม้ลายมือการทำอาหารเป็นเยี่ยม
สมาชิกหลายคนโดดเด่นด้านอาหาร เช่น ม.ล.เงียบ ทินกร เป็นผู้คิดค้นซอสวูสเตอร์ตราไก่งวง และยังมีโรงเรียนศิลปศาสตร์อาหารไทยหม่อมหลวงพวง ทินกร
“ที่สำคัญคือต้องรักษาระบบขับถ่ายให้ดีตลอดชีวิต”
การออกกำลังกาย อาจารย์คมสันมองว่า การออกกำลังกายที่เหมาะกับวิถีไทยแทรกอยู่ในวิถีชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเดินทำงาน เดินขึ้นบันได ด้วยสภาพอากาศร้อนไม่เหมาะที่จะออกกำลังกายประเภท
คาร์ดิโอหนักหน่วง ในมุมมองอาจารย์จึงไม่จำเป็น
เวลานี้อาจารย์มีภารกิจมากมายกับการดูแลการผลิตยาสมุนไพรที่มีความต้องการพุ่งขึ้นสูงแบบทวีคูณ รวมถึงถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์ สร้างเครือข่ายแพทย์แผนไทยให้มีคุณภาพและได้รับการยอมรับสืบสานและส่งต่อความรู้ของครอบครัวและความรู้ของชาติไทยต่อไป
“ตกลงอาจารย์ทราบหรือยังคะว่าทำไมอาจารย์จึงได้รับเลือกให้เป็นทายาท” ทีมงานถาม
“ไม่รู้ ถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรแล้วละ” อาจารย์คมสันเล่าสบายๆ ขณะยืนโพสต์ท่าให้ช่างภาพถ่ายรูป
...ก็คงจะจริง เพราะอาจารย์เป็นคนสร้างคำตอบนั้นด้วย การทำหน้าที่ ของตัวเองแล้ว