นิตยสาร O-lunla
คอลัมน์ Doctor Corner
ข้อมูลเมื่อ ค.ศ. 2014 มีผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกกว่า 387 ล้านคน และคาดว่า ค.ศ. 2035 (อีก 16 ปีข้างหน้า) จะเพิ่มเป็น 592 ล้านคน (คุณพระช่วย!)
เห็นสถิตินี้แล้ว “โรคเบาหวาน” ก็ยังคงเป็นหนึ่งในโรคฮิตติดเทรนด์ แต่ถ้าไม่อยากอินเทรนด์ต้องหมั่นเช็กสุขภาพ ใส่ใจอาหารการกิน และออกกำลังกาย
และถ้าพบ “สัญญาณเสี่ยง” 7 ข้อนี้ ขอได้โปรดอย่าละเลย มีอะไรกันบ้างนั้น ตามไปเช็กอาการกัน
1. ปัสสาวะบ่อยขึ้น กระหายน้ำบ่อยขึ้น
ทำไม ==> เพราะร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นออกทางปัสสาวะ เมื่อขับน้ำออกมาแล้ว ร่างกายจึงต้องการน้ำเพื่อทดแทนของเหลวที่ขับออกไป
2. น้ำหนักลด
ทำไม ==> เพราะร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงต้องหันไปดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้แทน
3. หิวบ่อย กินจุบจิบ
ทำไม ==> เพราะฮอร์โมนอินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นพลังงานให้กับเซลล์ร่างกายได้ ร่างกายจึงต้องส่งสัญญาณว่าหิวบ่อยๆ
4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ทำไม ==> ข้อนี้สัมพันธ์กับข้อ 3 ข้างบน เมื่อร่างกายเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานได้ไม่ดี ทำให้เซลล์ขาดพลังงาน จึงทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
5. บาดแผลหายช้า
ทำไม ==> เพราะหลอดเลือดตีบหรือไม่มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นมากพอจึงไม่เกิดการสมานแผล ทำให้แผลหายช้า
6. ตาพร่า มองไม่ชัด
ทำไม ==> เพราะเลนส์ตาเกิดการบวมน้ำ เวลามองจึงไม่สามารถปรับโฟกัสได้ แต่อาการนี้อาจจะเป็นๆ หายๆ ถ้าควบคุมระดับน้ำตาลให้ปกติ การมองเห็นก็จะดีขึ้น
7. รู้สึกชาตามปลายมือปลายเท้า
ทำไม ==> เพราะการที่น้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องนานๆ ทำให้ปลายประสาทรับความรู้สึกเสื่อม เส้นเลือดส่วนปลายตีบตัน จึงทำให้เกิดอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า
เช็กอาการกันแล้ว ใครที่ไม่มีอาการเลยก็ถือว่าดูแลสุขภาพได้ดีมาก ขอยกนิ้วให้
แต่ถ้าใครมีครบต้องกลับมาใส่ใจสุขภาพกันแล้วล่ะ ส่วนใครที่อาการไม่ครบ 7 ข้อ ก็ขออย่าชะล่าใจไป -- ลดหวานทีละนิด ลดน้ำตาลลงไปหน่อย หรือใช้สารทดแทนความหวานก็เข้าที เพื่อสุขภาพที่ดีในวันนี้และวันข้างหน้าของคุณ
สนใจติดตามข่าวสารดี๊ดี แอดไลน์เป็นเพื่อนกัน | (คลิกจากโทรศัพท์มือถือ)