“พลังบวกคือพลังชีวิตที่จะทำให้เราใช้ชีวิตด้วยความสุข สดชื่น มีชีวิตชีวา”
คำกล่าวนี้เป็นของ นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน แพทย์แผนปัจจุบันที่ศึกษาและทดลองเรียนรู้การแพทย์ทางเลือกด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นโยคะ ชี่กง ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด สมาธิภาวนา จนมั่นใจว่าการแพทย์ทางร่วมและทางเลือก (Complementary and Alternative Medicine) เหล่านี้คือคำตอบของการดูแลสุขภาพที่ทั้งประหยัดและดีต่อสุขภาพ
คุณหมอวิโรจน์แนะเคล็ดลับในการมีสุขภาพร่างกายที่ดีมีชีวิตชีวาว่าเราควรหลีกเลี่ยงพลังงานลบ และหมั่นรับพลังงานบวกจากภายนอก โดยแหล่งพลังงานที่ว่านี้มาจาก
• อาหาร
หมายถึงอาหารการกินที่เรากินกันอยู่ทุกวัน รวมถึงน้ำ อาหารที่เรากินประกอบด้วยพลังงานหลายแบบ ที่ชัดเจนที่สุดคือพลังงานชีวเคมีที่อยู่ในรูปของโมเลกุลอินทรีย์สารโฮโดรคาร์บอน
อาหารที่ให้พลังงานลบ คืออาหารที่ไม่สดใหม่ เก็บค้างไว้นาน ปนเปื้อนสารตกค้าง อาหารที่แต่งสีแต่งกลิ่น อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป ฯลฯ อาหารที่เป็นลบนี้ถือว่าเป็นพิษต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียพลังงานในการขับพิษออกจากร่างกาย ทำให้เกิดภาวะพลังงานติดลบ เป็นผลให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่ายนั่นเอง
อาหารที่ให้พลังงานบวก คืออาหารที่มาจากธรรมชาติ สด ใหม่ ไม่ปนเปื้อนสารเคมี อาหารเหล่านี้จะทำให้พลังชีวิตของเราเพิ่มขึ้น
• อากาศ
อากาศที่เราหายใจจัดเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมาก ถ้าขาดอากาศหายใจไม่กี่นาที เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะเริ่มทำงานผิดปกติความเป็นกรดในร่างกายจะสูงขึ้น ส่งผลให้อวัยวะและการทำงานของร่างกายส่วนต่างๆ เสียสมดุล อากาศที่ให้พลังงานลบคืออากาศที่ไม่ดี ไม่บริสุทธิ์ ไม่มีอากาศถ่ายเท
ส่วนอากาศที่ให้พลังงานบวกคืออากาศที่สะอาด สดชื่น เช่น อากาศริมทะเล หรือบริเวณป่าเขา
• คน
คนเราทุกคนจัดเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง พลังงานจากคนที่อยู่รอบตัวจะมีผลต่อพลังงานในตัวเรา คือมีการถ่ายเทไปมาของพลังงานระหว่างคนสู่คน และการถ่ายเทพลังงานนี้จะแปรผันตามความใกล้ชิด ความสัมพันธ์ หรืออิทธิพลที่คนเหล่านั้นมีร่วมกันอยู่ เช่น พ่อแม่กับลูก เพื่อนที่สนิทกัน ผู้ร่วมงานที่ใกล้ชิด รวมทั้งระยะเวลาที่มีปฏิสัมพันธ์กัน ยิ่งอยู่กันนาน พลังงานก็จะถ่ายเทระหว่างกันได้มากขึ้น
คุณหมอวิโรจน์แนะนำว่าให้ลองสังเกตดูว่าบางครั้งเราอยู่ใกล้บางคนแล้วสดชื่นแจ่มใส กระปรี้กระเปร่า มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น แต่กับบางคนเราอาจรู้สึกใจคอไม่ดี ห่อเหี่ยว อึดอัด หดหู่ ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนดีที่มีพลังดี พลังบวกของพวกเขาจะไหลเข้ามาสู่ตัวเรา ทำให้รู้สึกดีขึ้น พลังงานของจิต พลังงานของคลื่นสมอง รวมทั้งพลังงานจากร่างกาย ทั้งหมดนี้สามารถส่งผ่านไปมาระหว่างคนได้ เราจึงควรคบคนดีที่เรียกว่า “กัลยาณมิตร” เพื่อชีวิตจะได้รับแต่พลังบวกมากยิ่งขึ้น
• สถานที่
สถานที่ทุกแห่งล้วนมีพลังงานทั้งนั้น สถานที่ที่มีพลังบวกเมื่อเข้าไปแล้วเราจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่น ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย ซึ่งจะพบได้ในสถานที่ที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน อากาศถ่ายเทได้ดี อุณหภูมิพอเหมาะ เรียกสถานที่แบบนี้ว่ามีความ “สัปปายะ” เป็นสถานที่ที่มีพลังงานบวก ทำให้จิตใจของเราสงบ มาเติมพลังบวกให้กับชีวิต เพื่อความสดชื่นสดใสของร่างกายเราเอง และเพื่อคนใกล้ตัวเราจะได้มีแต่ความสุข