นิตยสาร O-lunla
คอลัมน์หนุนตักฟังเรื่องเล่า
การที่คนคนหนึ่งเติบโตมาเป็นคนคิดดีโดยพื้นฐาน มีชีวิตที่ดีสามารถดูแลตนเองรับผิดชอบครอบครัวได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย มีหน้าที่การงานดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน เป็นที่รักของแฟนคลับ ต้องยกเครดิตให้ “ครอบครัว” ที่หล่อหลอมตัวตนจนเป็น เดี่ยว - สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ในทุกวันนี้
พื้นฐานที่ดีนี้ทำให้นักแสดงหนุ่มออกปากอยู่หลายครั้งระหว่างสนทนาว่า
“ผมเป็นคนโชคดี”
ครอบครัวใหญ่ อบอุ่น คึกคัก
“คุณพ่อเป็นคนกรุงเทพฯ คุณแม่เป็นคนสมุทรสาคร พบรักกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วก็แต่งงานกัน ผมโตมากับครอบครัวใหญ่ของทั้งสองฝั่ง เริ่มจากอยู่บ้านคุณพ่อในกรุงเทพฯ เป็นครอบครัวคนจีน มีอาม่า อากง อากู๋
“พอช่วงอนุบาล 3 ผมย้ายมาอยู่ที่สมุทรสาครครอบครัวใหญ่ฝั่งคุณแม่ คุณตา คุณยาย คุณป้า คุณน้า อยู่ครบหมด ที่บ้านทำประมงก็สโลว์ไลฟ์ลงมาหน่อย มีพื้นที่กว้างให้วิ่งเล่นริมน้ำ ไปยืนมองเขาออกเรือ ถือว่าผมโชคดีมากเลยที่ได้อยู่กับครอบครัวใหญ่พร้อมหน้าทั้งฝั่งคุณพ่อคุณแม่ ทุกคนดูแลเราอย่างอบอุ่นและได้เจอเด็กๆ ได้เล่นด้วยกัน สนุกสนานเฮฮามาก
“ช่วงประถมเริ่มย้ายออกจากครอบครัวใหญ่มาเป็นครอบครัวเดี่ยว อยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ ผม และน้องสาว แต่ทุกอาทิตย์ก็จะไปมาหาสู่กัน การอยู่กับญาติเยอะๆ ทำให้เข้าใจคนง่าย แบบนี้ผู้ใหญ่คิดยังไง รุ่นเด็กคิดยังไง ทำให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเอาใจเขามาใส่ใจเรา”
เด็กผู้ชายชอบกินซีอิ๊ว
“ตอนเด็กๆ จำได้ ทุกเช้าที่บ้านจะจัดโต๊ะอาหารให้อากงก่อนไปทำงาน ผมปีนโต๊ะขึ้นไป ผมเป็นเด็กชอบกินซีอิ๊ว (หัวเราะ) แล้วก็โดนคุณพ่อตีว่ากินซีอิ๊วเปล่าๆ ได้ยังไง ผมก็เหมือนเด็กทั่วไปนะที่โดนตีบ้าง เวลาที่เราไม่ฟัง ทำผิดซ้ำๆ คุณพ่อมีฉายาว่า ‘ฝ่ามืออรหันต์’ ส่วนใหญ่จะถูกตีเรื่องซนครับเป็นเด็กพลังเยอะ ชอบปีนป่าย โหนชิงช้า สร้างวีรกรรมทำหลังคาพังบ้าง เล่นซนหัวโนข้างหนึ่ง แม่โปะดินสอพองให้ อีกวันโนตรงนี้ อีกวันตรงนี้ เต็มที่เคยมีสามลูกบนหน้าผาก (ยิ้ม)”
“คุณพ่อคุณแม่ดูแลเราใกล้ชิดมาก ให้ความรัก ความอบอุ่น สอนเรื่องกาลเทศะ เวลาทำอะไรไม่ถูกต้องก็จะบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ อย่างการกินซีอิ๊วก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่มันคือมารยาท โต๊ะกินข้าวของผู้ใหญ่ไม่ควรปีน”
“ตอนจะเอ็นทรานซ์ ผมเริ่มเครียดหนักว่าเอ็นท์ฯ ไม่ติดแน่ๆ (หัวเราะ) ไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างที่เคยบอกพ่อแม่ไว้ว่าจะเรียนหมอหรือไม่ก็วิศวะ เลยคิดจะเบนไปสอบสายศิลป์ด้านบริหาร ผมเชิญคุณพ่อคุณแม่เข้ามาในห้องเองเลย แสดงว่าวิกฤติแล้ว (ยิ้ม) ถามท่านว่าคาดหวังกับเดี่ยวไว้มากแค่ไหนว่าจะต้องเรียนอะไร ทำงานอะไร เพราะเราไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง”
ปรากฏพ่อกับแม่พูดตรงกันเหมือนนัดกันมาเลย บอกว่าไม่ต้องกังวล เดี่ยวจะเป็นอะไร ทำงานอะไรก็ได้ ขออย่างเดียว ‘ขอให้เป็นคนดี’
ผมจำมาถึงทุกวันนี้และใช้ได้ทั้งชีวิตผมเลย เพราะผมเอาคำว่า ‘เป็นคนดี’ ติดไปด้วยกับทุกสิ่งที่ผมทำ ก็พยายามตีความออกมาให้มันละเอียดที่สุด คนดีในการทำงานคืออะไร การเป็นพี่ชายที่ดี การเป็นลูกที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี ซึ่งการที่เราทำดี คิดดี และรู้สึกดีด้วยจึงทำให้เกิดพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ คำพูดของพ่อแม่วันนั้นจึงทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้”
ครอบครัวนี้ เรื่องกินเรื่องใหญ่
เป็นหนุ่มเฮลท์ตี้ที่ดูแลสุขภาพและรูปร่างอย่างสม่ำเสมอจนเป็นเจ้าของซิกซ์แพ็กโดนใจสาวๆ เรื่องนี้มีที่มาจากครอบครัวอีกเช่นกัน
“เป็นครอบครัวที่ดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของ โภชนาการอาหารคุณแม่นี่เน้นมาก รู้มาว่า 9 เดือนที่ผมอยู่ในท้อง แม่ดื่มนมวันละ 3 กระป๋อง เช้า กลางวัน เย็น ยังไม่รวมอาหารดีๆ ที่กินเข้าไปอีกนะ ตอนคลอดออกมาผมหนักประมาณ 3.8 กิโลฯ ได้ ถือว่าตัวโตทีเดียว (ยิ้ม) พอโตขึ้นมาก็ยังให้ผมกินนมอีก ติดมาจนถึงตอนนี้
“อาหารทุกมื้อแม่จัดให้เต็มที่ ข้าวต้มกุ้งนี่แทบมองไม่เห็นข้าวเลย ผักต้องมี ผลไม้คอยปอกมาให้ เวลาที่คุณแม่ไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด ผมถึงขนาดอดตายได้เลย ถึงตอนนี้ก็ยังคอยดูแลอยู่ ถ้าเลิกงานเย็น คุณแม่จะเตรียมอีกมื้อหนึ่งเผื่อไว้ให้เสมอ เพราะถึงผมกินมาแล้วก็ยังกินที่บ้านได้อีก (ยิ้ม)”
มีวันนี้ เพราะ "ครอบครัว" ให้
สำหรับ เดี่ยว – สุริยนต์ พูดได้ว่าครอบครัวมีผลต่อความสำเร็จของชีวิตหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม
“แน่นอนเลยครับ ครอบครัวมีอิทธิพลกับชีวิตผมมากทั้งในทางความคิด ทั้งในทางปฏิบัติ คือมนุษย์เราทุกคนต้องเดินไปตามทางของตัวเอง แต่สำหรับผมจะนำครอบครัวติดไปกับผมด้วยเสมอ เพราะถ้ามีคำสอนของพ่อแม่และครอบครัวไปกับผมด้วย ผมมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ดีในระดับเต็มที่กับทุกอย่าง”
“ผมจะเน้นเรื่องบาลานซ์ชีวิต การทำงานเยอะเป็นสิ่งที่ดี แล้วผมก็ชอบด้วย แต่ต้องอย่าลืมคนสำคัญที่เราต้องดูแลเขาด้วยนะ ผมตั้งใจทำให้ครอบครัวมีความสุขที่สุดทุกวัน มีเวลาว่างต้องไปดูแลทั้งครอบครัวและญาติพี่น้อง ผมคุยกับน้องสาวไว้ว่า ทุกปีอย่างน้อยหนึ่งครั้งเราต้องมีทริปเที่ยวแมตช์ใหญ่พาพ่อแม่ไปเที่ยว เพื่อพักผ่อนด้วยและได้กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวเราด้วย อย่างปีก่อนโน้นไปอิตาลีกัน 10 วัน เช่ารถขับไปตามเมืองต่างๆ เป็นกิจกรรมที่ได้ทำด้วยกัน 4 คน
“ในการดูแลคุณพ่อคุณแม่ตอนนี้เน้นในเรื่องของความรู้สึกเป็นหลักว่าต้องทำให้ท่านรู้สึกดี สะดวกสบายมีความสุขที่สุดในแต่ละวัน
“การที่ผมให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเห็นตัวอย่างจากคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับ ในฐานะลูก ท่านก็ดูแลคุณพ่อคุณแม่ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ก็พาอากงอาม่าวัย 80 ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ซึมเข้าไปในตัวเราเรื่องการต้องให้เวลากับครอบครัวเต็มที่ ทุกอาทิตย์ต้องไปกินข้าวกับอากงอาม่า หรือไปบ้านคุณตาคุณยายที่สมุทรสาคร
“ทุกวันสำคัญอย่างวันเกิด วันสำคัญทางจีน วันสำคัญทางไทย สงกรานต์ จะไปรวมตัว รดน้ำดำหัว ทำบุญ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ 3 วัน ต้องมีวันหนึ่งไปหาครอบครัวคุณพ่อ วันเคาท์ดาวน์เป็นของครอบครัวเราเอง 4 คน ส่วนอีกวันจะเป็นของครอบครัวคุณแม่นัดเจอกัน
“การกอดกับหอมแก้มนี่ผมทำบ่อยมากกับครอบครัว โดนกันทุกคน (ยิ้ม) อาม่า อากง คุณตาคุณยาย ยิ่งกับคุณพ่อคุณแม่นี่...ผมกอด หอมทุกวันเป็นประจำ"