นิตยสารโอ-ลั้นลา ฉบับกรกฏาคม 2559
Column : Share&Care
อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงโด่งดังในการทอผ้าจกลาวครั่งลวดลายโบราณ แต่กว่าจะได้ผ้าซิ่นงามๆ สักผืน ช่างทอผ้าต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการถักทอ จนอาจส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน
คุณยอด - อนิรัตน์ บุญศรี ลูกสาวช่างทอผ้าอำเภอบ้านไร่ ที่มีอาชีพเป็นช่างตัดผมชายประจำหมู่บ้าน วางปัตตาเลียนมาเล่าถึงการดูแลคุณแม่สูงอายุุ วัย 70 ปีซึ่งป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทให้โอ-ลั้นลา ฟัง
สาวทอผ้ากับปัญหาสุขภาพ
ชุมชนของเราทอผ้ามาตั้งแต่โบราณ ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า แม่เริ่มทอผ้าตั้งแต่อายุ 15 ปี เรียกว่าทอมาตั้งแต่สาว จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่เลิกทอ ห้ามไม่ได้ เป็นความสุขของท่าน ใครมีญาติเป็นช่างทอผ้าจะรู้ว่าบางทีก็ทอเพลิน นั่งทอวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง อาจมีพักบ้าง แต่ก็มักจะอยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ
ราวสี่ปีก่อนแม่มีปัญหาสุขภาพหนักมาก คุณหมอบอกว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ต้องนอนอยู่กับที่เป็นอาทิตย์กว่าจะลุกได้ ท่านมีอาการปวดเมื่อยที่เอวและเป็นเหน็บชาที่ขา กว่าจะล้มตัวลงนอนได้ลูกๆ ต้องช่วยกันพยุง
ดิฉันเป็นลูกสาวคนโตก็ได้อยู่ดูแลแม่อย่างใกล้ชิด พาแม่ไปหาหมอตามนัดแล้วก็ช่วยทำกายภาพบำบัดด้วยท่าง่ายๆ ตามโบรชัวร์ที่คุณหมอให้มา เช่น เช้าเย็นช่วยท่านยกขา ยกแขน แต่ช่วงที่แม่เป็นมากๆ ก็ต้องไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล แม่เป็นคนที่
กำลังใจดี ลูกๆ พยายามเอาใจท่าน ระมัดระวังคำพูดไม่ให้ผิดพลาด ส่วนการใช้ชีวิตประจำวันต้องใส่ใจมากๆ
เคล็ดดูแล - ป่วยกระดูกทับเส้น
เช้ามาดิฉันจะทำอาหาร ท่านมีความสุขมากที่ลูกทำอาหารให้ ท่านบอกว่าอร่อยที่สุด ใครไปใครมาก็ชมลูกสาวให้ฟังว่าดูแลท่านเป็นอย่างดี สำหรับดิฉันงานตัดผมนี่เป็นเรื่องรอง ทุกวันต้องดูแลแม่ก่อน ว่างแล้วจึงมาตัดผม ถ้าเราว่าง แม่ก็จะมานั่งคุยด้วย พอเรามีงาน แม่ก็จะไปทอผ้าต่อ ทุกวันตอนเย็นดิฉันจะต้มน้ำอุ่นให้ท่านแช่เท้าเพื่อลดอาการเหน็บชา แม่จะได้นอนหลับสบาย ตอนท่านนอนก็จะหาหมอนมาหนุนขาให้ท่าน
นอกจากนั้นก็จะพาท่านไปนวดแผนโบราณที่แผนกแพทย์แผนโบราณของโรงพยาบาลบ้านไร่ เพราะอยากให้คนที่มีความชำนาญจับเส้นเป็นนวดให้ท่าน แม่เป็นคนที่เรารู้จักนิสัยใจคอดีที่สุด ถ้าแม่มีความสุข โรคทางกายท่านก็จะดีวันดีคืน คุณหมอบอกว่าโรคนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ทำงานหนัก รวมถึงงานบ้านด้วย ดิฉันพยายามจะหยิบจับให้เร็ว กลัวแม่จะมาทำด้วยตัวเอง
ส่วนน้องสาวคนกลางก็ช่วยพาแม่ไปวัด เราอยากให้ท่านมีความสุขคิดว่าโรคนี้ดูแลทางกายอย่างเดียวไม่ได้ จิตใจสำคัญมาก ต้องเอาใจใส่กับความรู้สึกท่านเยอะๆ แม่ของเราเรารู้ดี เวลาลูกเอาใจ ท่านจะยิ้ม คำพูดก็เป็นสิ่งสำคัญคืออยู่ใกล้กันมากยิ่งต้องระวัง แค่ป่วยเล็กน้อย ถ้าไม่ระวังคำพูดก็จะกลายเป็นป่วยหนักได้
ดิฉันคิดว่าการดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย เราต้องให้ความใส่ใจมากๆ ท่านเป็นเหมือนพระในบ้านที่เรารักและเคารพ อยากให้อยู่กับเราไปนานๆ เราก็ต้องทะนุถนอมน้ำใจ แม่เลี้ยงเราแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมอย่างไรตอนท่านแก่เฒ่า เราก็ต้องทำให้ได้ยิ่งกว่าค่ะ