นิตยสารโอ-ลั้นลา ฉบับเดือนตุลาคม 2558
Column : O-Happy
"Sound Mind in Sound Body จิตใจที่ดี อยู่ในร่างกายที่ดี"
เป็นข้อความในเฟซบุ๊กของหมอยุทธ โพธารามิก เลขาธิการมูลนิธิ พอ.สว.
ในวัย 79 ยังเดินหลังตรง สมาคมกับเพื่อนในโลกโซเชียล ยามว่างเล่นฟิตเนส มีอารมณ์ขัน ความจำดี ออกนอกบ้านไปทำงานสม่ำเสมอ บางโอกาสยังนำทีมหมอพยาบาล และอาสาสมัครหนุ่มสาวลุยป่า ฝ่าดง เดินข้ามเขาเป็นวันๆ เพื่อไปดูแลคนไข้ในถิ่นทุรกันดาร ในโครงการ 'หมอเดินดอย' ของมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
อะไรเป็นแรงดลใจให้คุณหมอยังคงสดใส ลั้นลา กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาในการทำงาน
ชีวิตวัยเด็กกับสงครามโลก
“ผมเกิดวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 เติบโตที่บ้านฝั่งธนบุรี ชีวิตก็โตมากับยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 พอโดนระเบิดที่กรุงเทพฯ มากเข้า ครอบครัวเราก็ย้ายกลับไปอยู่โพธารามบ้านเกิด พันธมิตรมาทิ้งระเบิดที่สะพานราชบุรี แถวหนองปลาดุก วันดีคืนดีเห็นดวงไฟที่สาดส่องมา เห็นฝูงบินอยู่บนฟ้า เราวิ่งหนีลงหลุมหลบภัยแต่ยังมองเห็นท้องฟ้า ตอนเด็กผมสงสัยว่า ถ้ามันโล่งอย่างนี้จะมีที่หลบภัยไว้ทำไม แต่พอโตจึงเข้าใจว่าหลุมหลบภัยมีไว้หลบกระสุนแนวราบ”
“ผมนามสกุลโพธารามิก เพราะเป็นคนโพธาราม จังหวัดราชบุรี พอโตหน่อยก็มาเข้าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เด็กๆ ผมอยู่กับปู่กับย่า ปู่เป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ชอบไปไร่ ที่บ้านปลูกกล้วยไว้เต็มไปหมด เก็บกินได้ตลอด ปู่อยู่กับธรรมชาติ รับประทานข้าวกล้อง ผมกับคุณอดิศัย (โพธารามิก) กินข้าวกล้องมาแต่เด็ก คุณปู่เป็นข้าราชการอยู่ฝ่ายการศึกษา ชื่อจริงชื่อประยูร ได้รับพระราชทินนามว่า ขุนวิทยาการประเสริฐ เป็นศึกษาธิการจังหวัด นามสกุลนี้คุณปู่ได้มาเมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 6 ทรงเสด็จทอดพระเนตรการฝึกเสือป่าที่โพธาราม"
หมอหนุ่มที่แม่สอด
“คุณพ่อผมเป็นหมอ คุณแม่เป็นพยาบาล ใจจริงๆ ลึกๆ ผมอยากเป็นทหาร แต่เพราะการหล่อหลอมจากพ่อและแม่ ผมเรียนหมอเพราะต้องการจะไปอยู่ต่างจังหวัด มีคนจน มีคนที่บริสุทธิ์ และผมต้องการช่วยเหลือดูแลพวกเขา ผมเริ่มชีวิตราชการที่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งสมัยก่อนเส้นทางไปมาลำบากเราไปโดยไม่มีอะไรเลย สมัยก่อนเงินเดือนแค่ 1,900 บาท ทั้งโรงพยาบาลมีหมออยู่ 3 คน ผลัดกันเข้าเวรคนละ 10 วัน แค่เขาเอ่ยขอบคุณคำเดียวหรือบางครั้งแค่เอามะพร้าวมาให้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ มีความสุขมากที่ได้ช่วยพวกเขา"
"มีหนหนึ่งตำรวจชายแดนถูกระเบิดที่หัวอาการโคม่า เราก็จับโกนหัว นึกถึงครูบาอาจารย์แล้วก็ค่อยๆ ช่วย เขาก็รอดปลอดภัย ชีวิตการทำงานที่ผ่านมา แม่สอดคือที่ที่ประทับใจที่สุด เดินในตลาดมีแต่คนปกป้อง เพราะที่นี่คือโรงเรียนชีวิต ผมเรียนจบแพทย์ศิริราช ผมจะนึกถึงคำของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ อยู่เสมอ ‘ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นหมออย่างเดียว แต่ฉันต้องการให้เธอเป็นคนด้วย’
สูงวัยใจสุข
“ผมเคยอ่านบทความจาก National Geographic มีชุมชนหนึ่งอยู่ที่ราบสูงทิเบต คนอายุเฉลี่ย 100 กว่าปีทั้งนั้นเลย นักวิจัยก็ส่งทีมแพทย์อเมริกัน 3-4คนเข้าไปอยู่หนึ่งปีเพื่อศึกษาวิถีชีวิตว่าทำไมถึงมีอายุยืนก็เขียนสรุปมาได้สี่ข้อคือ
“หนึ่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ สอง อากาศบริสุทธิ์ สาม ไม่เครียดทั้งทางกายและใจ ขยายความคือ มีเท่าไร กินเท่านั้น ไม่คิดอยากจะฟุ่มเฟือย หรูหรา ไม่เดือดร้อนไม่ทะเยอทะยาน และสี่ คนที่นี่กินน้ำผึ้งแต่เด็ก ตั้งแต่เกิดจนตาย เปรียบเหมือนน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ
“ผมเองก็ย้อนกลับมาดูที่ตัวผม เราเป็นคนสูงอายุแล้ว เราจะทำอย่างไรเพราะชีวิตเราผ่านมาโชกโชนแล้ว รู้ดีรู้ชั่ว รู้ร้อน รู้หนาว รู้เย็น ผมคิดว่าสองสิ่งที่ควรเก็บไว้คือ หนึ่ง สุขภาพ สุขภาพก็ต้องรักษาทั้งทางกายทางใจ หลักการคือขอเพียงทำหลอดเลือดให้สะอาด"
"ทำอย่างไรให้หลอดเลือดสะอาด ก็ต้องหายใจอากาศบริสุทธิ์เพื่อนำเลือดไปฟอกที่ปอด ทำหลอดเลือดให้สะอาด ถ้าผนังเลือดไม่แข็ง ตีบตัน ลิ่มเลือดต่างๆ ก็จะไม่ไปอุดตันที่สมอง ไม่ไปอุดที่หัวใจ ถ้าหลอดเลือดสกปรกมันเป็นบ่อเกิดของโรคความดันโลหิตสูง อุดตันที่สมอง อุดตันที่หัวใจ เทคนิควิธีแก้ คือดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกายและต้องกินอาหารดีๆ ของดีๆ เข้าไปในเส้นเลือด ถ้ากินไขมันมาก ไขมันก็เข้าไปในเส้นเลือด นี่คือบทสรุปว่าต้องรักษาสุขภาพให้ดี"
“สอง เพื่อน คืออีกสิ่งที่ควรเก็บรักษา เพื่อนที่ดีจะร่อยหรอลงไปทุกวัน เราจึงต้องรักษาไว้ ถนอมไว้ไม่ว่าจะเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ เพราะว่าเพื่อนจะเป็นสิ่งที่เกื้อกูลให้กับชีวิต คอยช่วยเหลือเราได้ เพื่อนที่ไม่ดีเราก็ไม่เอามาเพราะอายุเราเหลือน้อยแล้ว ถ้าคบเพื่อนไม่ดีจะทำให้ชีวิตเสียหาย”
หมอยุทธ โพธารามิก เป็นวิทยากรรับเชิญเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับข้าราชการเกษียณ ในโครงการ "ผจญภัยในตัวเอง การค้นพบครั้งใหม่หลังวัยเกษียณ" ในภาพกำลังเล่นเพลง "เดือนเพ็ญ" กับย่าลิน เมลินดา เฮอร์แมน
ลั้นลา-เคล็ดลับชะลอวัย
“หลังเกษียณผมก็มีเทคนิคอยู่สามข้อ ข้อที่หนึ่งก็คือ คบเด็ก ไมใช่ทางชู้สาวนะ คบเด็กทำให้เราอัพเดตสิ่งใหม่ๆ รวมถึงอัพเดตสมองด้วย ถ้าไม่ได้คบเด็ก ผมคงจะเล่นเฟซบุ๊กไม่เป็น เด็กสมัยใหม่แอ็กทีฟกว่าเด็กสมัยก่อน หนุ่มสาวสมัยนี้ดูขยันทำงานทำการ เราได้คำศัพท์ใหม่ๆ จุงเบย จุ๊บๆ (หัวเราะ) ก็จากการคบเด็ก ทำให้เราสนุกสนาน
“ข้อสอง หาทางออกจากบ้านทุกวัน ถ้าอายุมากแล้วจะรู้ อยู่บ้านสองวันก็เบื่อแล้ว ดังนั้นช้อปปิ้ง ออกกำลังกาย ไปหาเพื่อน ไปเท่าที่กำลังเรามี ออกไปไม่ใช่ไปที่อโคจร อายุมากๆ อยู่บ้านนานๆ สามสี่วันตายแน่ๆ ต้องหาทางออกจากบ้านทุกวัน ไปไหนก็ได้ ช้อปปิ้ง ไปทำงาน
"ข้อสุดท้าย ทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งเราทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ งานจะทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าเมื่อหางานที่เหมาะสมกับตัวเอง มันจะย้อนกลับมาที่ข้อหนึ่งและข้อสอง ทำให้ชีวิตสนุกสนาน ลั้นลา แล้วจะอายุยืน”