คอลัมน์ : Cover Story
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในนิตยสารโอ-ลั้นลา ฉบับเดือนมิถุนายน 2560
จากความตั้งใจเดิมของ ชูศิษฎ์ เขียวชะอุ่ม อดีตข้าราชการนักพัฒนาชุมชนในวัย 64 ปี ที่ตั้งเป้าหมายของตัวเองหลังเกษียณไว้ว่าจะกลับไปเป็นครูสอนศิลปะอีกครั้ง จับพู่กัน จุ่มสีน้ำ และถ่ายทอดความรู้คู่ความรักที่เขามีต่องานศิลปะ
แต่ชีวิตที่คิดว่าจะทำตามแผนกลับผิดแผน เมื่อลูกสาว แอน-ณภัทร เขียวชะอุ่ม อดีตโปรดิวเซอร์ในแวดวงโฆษณาสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างยามที่คุณพ่อกลับมาจับพู่กันหลังจากร้างไปนานสิบปี เธอมองไปไกลกว่านั้นว่า งานศิลปะที่เปี่ยมอารมณ์เหล่านี้ไม่ควรจะอยู่แค่ในกรอบรูปที่บ้านและมีเพียงคนในครอบครัวผลัดกันชื่นชม และนี่คือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ JAI Craft & Design แบรนด์ที่เริ่มต้นจากกำลังใจและความภาคภูมิใจของครอบครัวเขียวชะอุ่ม
ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยใจ
ภาพของผ้าพันคอซิลค์ซาตินเนื้อนุ่มที่เรียงรายอยู่ในสตูดิโอ JAI Craft & Design มีทั้งภาพภูเขาที่ดูเยือกเย็น ภาพทะเลที่ดูสงบ ภาพใบไม้สีเขียวสดใสที่ดูแล้วชวนอยากออกไปสนุกกับแดด ภาพเหล่านี้ล้วนเคยอยู่บนกระดาษวาดเขียนที่ถูกเก็บไว้และไม่กล้าออกสู่สายตาคนภายนอก แต่เพราะกำลังใจของลูกสาว ภาพผลงานเหล่านี้จึงได้ออกมาโลดแล่น
“ผมจบเพาะช่าง เคยเป็นครูสอนศิลปะนักเรียนประถมโรงเรียนเอกชน แต่ในยุคสมัยนั้นการทำงานข้าราชการคือความมั่นคง จึงทำให้ผมลาออกจากการเป็นครูศิลปะไปทำงานด้านพัฒนาชุมชน เป็นนักบริหารงานสวัสดิการสังคมที่สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด”
คุณลุงชูศิษฎ์เริ่มต้นเล่า “ก่อนเกษียณก็คิดไว้แล้วว่าหลังเกษียณจะไปสอนหนังสือ ไปดูงานแสดงศิลปะบ้าง ทบทวนและฟื้นฟูสิ่งต่างๆ ที่เราเคยสนใจ ตอนนั้นเราเองก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากนักว่าการกลับมาวาดรูปอีกครั้งจะออกไปสู่สายตาคนข้างนอกได้ เพื่อนๆ ก็ชวนให้กลับมาวาดรูป มาแสดงงานกัน แต่ผมก็บอกว่าขอเวลาสักนิด เพราะคิดว่างานของเรายังไม่ได้สมบูรณ์จริงจัง”
คุณแอนลูกสาวเล่าเสริมว่า เธอเองก็เคยรู้เพียงว่าพ่อวาดรูปได้ เพราะภาพที่ติดตาในครอบครัวเมื่อยามเธอเติบโตขึ้นมาคือพ่อรับราชการแล้ว แรงบันดาลใจสำคัญที่ร่วมผลักดันให้ภาพวาดทำหน้าที่มากไปกว่าเดิมคือลูกสาวคนนี้ เธอรู้สึกว่าอยากให้คนได้เห็น ได้สัมผัส และเข้าถึงผลงานของคุณพ่อมากกว่าจะเป็นเพียงสมาชิกในบ้านเห็น เธอยกตัวอย่างตัวเธอเองที่เมื่อเห็นผลงานของพ่อแล้วจะพูดประโยคเดิมๆ ว่า “สวยนะพ่อ…” แล้วมันก็จบไป
ลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณพ่อร่วมบอกเล่าด้วยสายตาอันเป็นประกาย “แอนจำประโยคหนึ่งที่พ่อพูดได้หลังเกษียณ พ่อเคยถามแอนว่า ‘มีอะไรให้พ่อทำไหม พ่อทำได้นะ’ ครั้งหนึ่งพ่อเคยเป็นผู้นำครอบครัว ดูแลคนทั้งบ้าน แต่คำนี้ทำให้เราได้ฉุกคิด เราอยากให้งานของพ่อถูกเห็นในวงกว้าง มีคนเข้ามาชื่นชมเหมือนที่เรารู้สึก”
จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะนำผลงานภาพสีน้ำของคุณพ่อไปแปรเป็นชุดสมุดโน้ตหรือเครื่องเขียน เมื่อผ่านกระบวนการคิดร่วมกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ สุดท้ายก็มาลงเอยที่ผ้าพันคอในแบรนด์ JAI Craft & Design ด้วยเหตุผลว่าผ้าพันคอเป็นสินค้าที่เข้าถึงคนได้หลายวัย
เป็นการนำงานศิลปะที่เคยอยู่บนกระดาษมาประยุกต์ ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย และที่สำคัญสิ่งนี้เริ่มต้นจาก “ใจ”
จากปลายพู่กันสู่โฟโต้ช้อป
“แอนเขาก็มาชวนผมทำ เขามีความรู้เรื่องการตลาดแบบเด็กรุ่นใหม่ คอยวางแนวทางรูปแบบความคิดให้ผมทำ เช่น เดือนนี้จะเป็นฤดูหนาว ผมน่าจะลองวาดภาพภูเขาที่ดูแล้วเย็น สุขสบายใจ” ผู้เป็นพ่อเล่าด้วยรอยยิ้มและมองไปที่ลูกสาวเป็นระยะ “แรกๆ ผมก็กลัวว่าเขาจะขายไม่ได้นะ (หัวเราะ) แต่เขาบอกเสมอว่า พ่อทำได้”
JAI เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านการทำงานของคนสองวัย แม้ใครจะพูดเสมอว่าโลกนี้ไปไกลถึงไหนแล้ว การวาดภาพถูกทดแทนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับพ่อลูกคู่นี้ โดยคุณพ่อทำหน้าที่วาดภาพสีน้ำโดยเชื่อมโยงแนวความคิดของลูกสาว ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้เป็นพ่อออกมาเป็นผลงานรูปร่างต่างๆ จากนั้นลูกสาวจะนำไปสแกนในคอมพิวเตอร์ ใช้โฟโต้ช็อปปรับสี วางแบบให้เป็นลายเต็มผืน ก่อนจะเข้าสู่ระบบพิมพ์ต่อไป
JAI Craft & Design ไม่ใช่แค่สร้างรายได้หลังเกษียณ แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของคุณพ่อคือความภาคภูมิใจที่ผลงานของตัวเองได้รับการตอบรับจากลูกค้าสมองของพ่อได้ทำงานทุกวัน เธอเองแม้ได้คลุกคลีกับคนทำงานศิลปะสมัยใหม่ มีการใช้เทคโนโลยีอย่างคล่องแคล่ว แต่คนรุ่นพ่อมีทักษะ มีความประณีตสูง
ลุงชูศิษฎ์ทิ้งท้ายกับเป้าหมายที่เขาและลูกสาวคิดร่วมกันว่า อยากให้แบรนด์ JAI นี้เป็นพื้นที่รวมตัวกันของผู้สูงอายุที่มีใจรักในงานศิลปะ “บางคนถนัดดรออิ้ง บางคนถนัดโปสเตอร์ บางคนถนัดวาดทิวทัศน์ บางคนถนัดแอ็บสแตร็ก งานศิลปะหลากหลายมุมมอง วันหนึ่งอาจจะกลายเป็นลวดลายผ้าพันคอหรืองานอื่นๆ ก็ได้มันสุขทั้งคนที่สร้างงานและคนที่ได้ใช้งานนะ
“งานวาดภาพนี้ทำให้ผมมีความสุข ความสุขมันส่ง ไปที่สมอง สมองก็ส่งมาที่ร่างกาย ที่สำคัญ ตั้งแต่มีศิลปะหลังเกษียณ ชีวิตผมก็ไม่เคยเหงาอีกเลย”
เยี่ยมชมเว็บไซต์ >> www.jaicraftdesign.com