นิตยสารโอ-ลั้นลา
คอลัมน์ : หนุนตักฟังเรื่องเล่า
ภาพลายเส้นตัวการ์ตูนหัวโต ผมน้อยเส้น แถมมีคิ้วต่ำ พร้อมถ้อยคำมากกำลังใจของเพจ kiwtum-คิ้วต่ำได้รับความนิยมในโลกโซเชียลมานานหลายปี แต่น้อยคนนักที่จะเคยเห็นหน้าค่าตาตัวจริงคิ้วดกของเขา
ปั๊ม-อนุชิต คำน้อย
สมุดบันทึกของคิ้วต่ำ
ย้อนไปก่อนวันที่คาแรกเตอร์ของคิ้วต่ำจะกำเนิดขึ้น ปั๊มเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ทำงานในโปรดักชั่นเฮาส์เล็กๆ แห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว จนวันหนึ่งนิตยสารฉบับหนึ่งเปิดให้คนอ่านส่งผลงานเพื่อมาเป็นนักเขียนหน้าใหม่ทักษะวาดภาพไม่ได้สวยกินขาดเหมือนใครแต่อยากมีรายได้เสริม เพื่อนที่เคยเห็นเอ่ยชมสมุดบันทึกที่เขาชอบจดมีอารมณ์ขันแฝงอยู่ ในเล่มมีเพียงรูปวาด
และข้อความสั้นทำนองว่า หิวข้าว จนจัง อยากมีตังค์แบบคนขี้บ่น ปั๊มตัดสินใจรวบรวมรูปวาดอารมณ์ขันเหล่านั้นบันทึกลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ตั้งชื่อเพจว่า “คิ้วต่ำ” จากเพื่อนในกลุ่มกดไลค์กลายเป็นกระแสทั้งไลค์ทั้งแชร์ด้วยข้อความสั้นๆ ตลก โดนใจ
คิ้วต่ำจึงกลายเป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวาและค่อยๆ สั่งสมความนิยมในโลกโซเชียลแต่นั้นมา
จดหมายร้อยฉบับ
“ผมคงได้สายเลือดนักอ่านมาจากคุณพ่อคุณแม่ พ่อแม่เป็นชาวนา แต่เขาอ่านหนังสือขายหัวเราะ อ่าน ‘ต่วย’ตูน หนังสือเจ็ดป่าช้า ผีแม่นาค ที่บ้านมีเต็มตู้เลย เด็กต่างจังหวัดยุคนั้นปิดเทอมไม่มีห้างให้เดิน ก็ต้องหยิบหนังสือมาอ่าน บางเล่มอ่านจนรู้ เราก็เลยเสพติดคำหรือวิธีการใช้คำ เราไม่ได้จำ แต่มันฝังเข้าไปเอง
“ผมเป็นเด็กบ้านนอก พอโตขึ้นมา พ่อก็ไปรับจ้างเป็นแรงงานในต่างประเทศ ทำให้ผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่และน้องมากกว่า ผมจึงจะไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไรนัก แต่จำได้ว่า ทุกๆ สองปีจะรอพ่อกลับมา รอของเล่นของฝากที่พ่อจะเอามาให้
“ถึงผมจะไม่สนิทกับพ่อ แต่ผมรู้ว่าพ่อกับแม่รักกันมาก แม้โตแล้ว ผมยังเห็นแม่กับพ่อเขียนจดหมายถึงกันอยู่เสมอ ด้วยเพราะทั้งคู่อยู่ไกลกัน ที่บ้านผมมีกองจดหมายเยอะมากและพ่อยังเก็บรักษาไว้อย่างดีทุกฉบับ
“เดือนหนึ่งมีจดหมายมาที่บ้าน 1-2 ฉบับ พ่อจะเขียนมาหลายหน้ามาก ในเนื้อความจะเขียนเล่าถึงความรู้สึก ความคิดถึงระหว่างเขาสองคน เพราะพ่อกับแม่จะเหมือนคนที่รักกันใหม่ๆ เสมอ คุยกันเหมือนคนจีบกัน ส่วนหน้าสุดท้ายถึงจะเขียนถึงเรา เขียนหาลูกประมาณสัก 2-3 บรรทัดสุดท้าย
“ที่พ่อกับแม่รักกันมากเพราะว่ากว่าจะได้แต่งงานกันแม่กับพ่อเคยหนีตามไปด้วยกันมาก่อน แม่เป็นสาวต่างจังหวัดหน้าตาดี ใ นขณะที่พ่อรูปไม่หล่อ บ้านแม่อยู่หน้าบ้าน บ้านพ่ออยู่หลังบ้าน แล้วบ้านสองหลังนี้ไม่ให้รักกันตามสไตล์ละครไทย สุดท้ายพ่อกับแม่ก็เลยพากันหนีไป จนกระทั่งแม่ตั้งท้องผมจึงเป็นเหตุให้พ่อกับแม่ได้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันเสียที แม่ท้องแก่ ตาเลยให้พ่ออาศัยอยู่ที่ปั๊มน้ำมันร้างของตาเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว นี่คือที่มาของชื่อ ‘ปั๊ม’ ของผม
จดหมายฉบับสุดท้าย
“จดหมายของพ่อกับแม่ ผมโตมาแล้วก็ยังได้อ่านทุกฉบับ และจดหมายฉบับที่ผมจำได้ขึ้นใจที่สุดเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่แม่ส่งให้พ่อ…
“เนื้อความในจดหมายนั้น แม่ไม่พูดถึงตัวเองเลยแม่จะถามพ่อว่าสบายดีไหม ปั๊มกำลังจะเรียนต่อนะ น้องคนเล็กเพิ่งจะอกหัก นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า ชีวิตที่ผ่านมาของแม่แทบไม่มีเรื่องของคนอื่นเลยนอกจากเรื่องของครอบครัว เพราะเป็นสิ่งที่แม่รัก
“จดหมายฉบับสุดท้ายของแม่เขียนขึ้นในช่วงที่ผมสอบไฟนอลขณะเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 มีเพื่อนผมโทรเข้ามาบอกว่าแม่ขี่มอเตอร์ไซค์ชนรถบรรทุก แม่เสียแล้ว จากนั้นที่บ้านผมก็โทรมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจว่า ‘ใจสลาย’ มันเป็นอย่างนี้เอง
“ตอนนั้นพ่อก็ยังไม่รู้เรื่อง ไปออกเรืออยู่บรูไน ผมเลยต้องรออยู่กรุงเทพฯ สองวัน เพื่อให้พ่อกลับเมืองไทย แล้วจะได้นั่งรถกลับไปด้วยกัน ผมนั่งรถทัวร์กลับบ้าน 7 ชั่วโมง เป็น 7 ชั่วโมงที่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เราต่างนั่งเงียบ เป็นบรรยากาศอึดอัดที่นานที่สุดในชีวิต ผมไม่รู้จะพูดอะไรเพราะผมไม่ได้สนิทกับพ่อ ผมไม่รู้ว่าต้องร้องไห้ หรือแสดงความอ่อนแออย่างไร แต่พอผมไปถึงบ้าน เจอยาย เจอพระอาจารย์ที่เคยสอนผมสมัยที่ผมเป็นเด็กวัด ท่านบอกว่า ‘แม่ดูอยู่’ ผมก็รู้สึกว่าเราต้องเข้มแข็ง นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต
“เมื่อก่อนผมเป็นเด็กเรียนศิลปะที่อยากพิสูจน์ตัวเองเรารู้สึกว่าจุดศูนย์กลางก็คือตัวเอง คิดถึงแต่เรื่องตัวเองว่าอยากเป็นแบบนั้น อยากได้แบบนี้ ไม่เคยสนใจใคร แต่พอเสียแม่ไป ผมกลายเป็นคนที่โฟกัสคนรอบตัวให้มากขึ้น น้อง พ่อ ตายาย โทรหาประจำ ทำอะไรอยู่ ผมว่าชีวิตเราสั้นเกินกว่าจะคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ผมเรียนรู้ว่า ชีวิตของแต่ละคนคือการเดินทาง ทางเรายาวไม่เท่ากัน ทางใครสั้นก็ไปก่อน แล้วที่เหลือก็ต้องเดินต่อ มันหยุดไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราจะเอาเหตุการณ์นั้นมาปรับกับชีวิตที่เหลืออย่างไร
“ทุกครั้งที่ผมเหนื่อย ผมจะอ่านจดหมายของแม่ เพราะรู้สึกว่าแม่กำลังพูดให้เราฟังอยู่ แม่เป็นคนที่ชอบผมจะชอบไปดูรูปถ่ายใบหนึ่ง เป็นรูปแม่ พ่อ และผมอยู่ด้วยกัน ผมเห็นภาพนี้ตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งมาเห็นข้อความด้าน
หลังก็ตอนเรียนจบ แม่เขียนไว้ว่า “เวลาเครียดก็ดูรูปนี้นะจ๊ะ!” ได้เห็นตัวหนังสือลายมือของแม่ เวลาที่หยิบภาพนี้มาดู ผมจะมีกำลังใจและมีความสุขทุก ๆ ครั้ง”